บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2018

แฟนซีคาร์ฟ

รูปภาพ
       ปลาโค่ย หรือที่เรียกกันว่าปลาคาร์พนั้นเป็นปลาที่เราเห็นจนชินตาในการ์ตูน หรือวรรณกรรมญี่ปุ่น โดยสามารถพบได้ทั่วไปในโลกความเป็นจริงเช่นกันตามบ่อน้ำในบ้านต่างๆ โดยปลาโค่ยนั้นมีความสามารถได้สองทาง ทางหนึ่งแปลว่ารัก หรือใส่ใจดูแล (ใช้คันจิคนละตัว แต่ออกเสียงเหมือนกัน) ส่วนอีกทางก็แปลว่าปลาคาร์พนั่นเองปลาคาร์พนั้นเป็นปลาน้ำจืดที่มีสีสันมาก และพบได้ตามบ่อน้ำคนญี่ปุ่นทั่วไป หรือแม้กระทั่งในบ่อน้ำในวัดก็ยังเลี้ยงเอาไว้เช่นกัน ปลาคาร์พนี้เป็นปลาท้องถิ่นในแถบเอเชีย เป็นปลาที่กินหมดทั้งพืชและสัตว์น้ำเล็กๆ หรือจะโยนแมลง สาหร่าย ไส้เดือน ก็กินเรียบเช่นกัน บางครั้งคนญี่ปุ่นก็เลี้ยงปลาคาร์พเอาไว้ในอควาเรียมส่วนตัวเช่นกัน โดยเข้าใจว่าปลาคาร์พเป็นปลาทอง เนื่องจากมีสีสันที่ค่อนข้างสดใส แต่จริงๆ แล้วปลาทั้งสองชนิดเป็นปลาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ปลาทองนั้นมักจะมีสีเหลืองทองอยู่ ในขณะที่ปลาคาร์พอาจจะมีสีที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาและสภาพภูมิอากาศ แม้ว่าปลาทั้งสองจะอยู่ในกลุ่มแฟมิลี่สายพันธ์ Common Carp ก็ตามที โดยปลาทองจะมีลักษณะที่มีสีเดียวตลอดตัว ขณะที่ปลาคาร์พมักจะมีสีสันที่หลากหลายปลาทองนั้นถูกเพ

ลักษณะทั่วไปปลาคราฟ/ปลาคาร์ฟ

รูปภาพ
    ปลาคราฟ มีลักษณะลำตัวแบน และค่อนข้างกลม หัวไม่มีเกร็ด ริมฝีปากบางเรียบ ภายในปากไม่มีฟัน แต่จะมีฟันที่ลำคอ 1-3 แถว แต่ละแถวมีฟันไม่เกิน 8 ซี่ ลำตัวมีครีบหลัง ครีบหู ครีบท้อง และครีบหาง บางชนิดไม่มีเกล็ด บางชนิดมีเกล็ด บางชนิดมีเกล็ดขนาดใหญ่ในบางส่วน เช่น ปลาคราฟญี่ปุ่นมีเกล็ดทั้งลำตัว ส่วนปลาคราฟเยอรมันมีเกล็ดขนาดใหญ่เฉพาะแถบบนเส้นข้างลำตัวปลาคราฟ เป็นปลาที่ไม่จัดอยู่กลุ่มปลากินพืชหรือปลากินเนื้อ เพราะโดยธรรมชาติจะกินพืชหรือสาหร่ายที่มีตัวอ่อนสัตว์น้ำเข้าไปด้วย รวมถึงสามารถกินได้ทั้งแพลงตอนพืช และสัตว์ และหอยได้ด้วย อ้างอิง–    http://pasusat.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F/

ลักษณะปลาคราฟ/ปลาคาร์ฟ ที่ดี

รูปภาพ
      ปลาคราฟที่ดี และเป็นที่ต้องการของตลาดจะต้องมีลักษณะของหัวที่สมบูรณ์ ลำตัวไม่สั้นเกินไป ลำตัวต้องกลมเป็นรูปกระสวย ลักษณะครีบสวยงาม ไม่มีส่วนฉีกขาด ส่วนหางใหญ่ และแข็งแรง มีท่วงท่าการว่ายน้ำสวยงาม และที่สำคัญอีกประการ คือ จะต้องมีสีสันเข้ม สวยงาม มีความคมชัด สดใส และมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ หายาก ทั้งนี้ ปลาคราฟที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์หรือเป็นโรคจะมีลักษณะเชื่องซึม มีสีซีดจาง ปลาประเภทนี้ไม่ควรนำมาเลี้ยง และควรกำจัดออกจากบ่อทันที อ้างอิง–    http://pasusat.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F/

สีของปลาคราฟ/ปลาคาร์ฟ

รูปภาพ
       สีของปลาคราฟ เป็นสารสีที่มาจากสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งปลาคาร์ฟไม่สามารถสังเคราะห์สารเหล่านี้ได้เอง แต่สารแคโรทีนอยด์ที่ทำให้เกิดสีในตัวปลาคราฟจะมาจากอาหารที่ได้รับในแต่ละวัน ซึ่งสีจากสารแคโรทีนอยด์จะให้สีเหลือง ส้ม และแดง โดยสีแดงในปลาคราฟเกิดจากสารแคโรทีนอยด์ชนิด astaxanthin ซึ่งปลาคราฟสามารถสะสม และเปลี่ยนสารสีเหล่านี้ให้อยู่ในร่างกายได้   อ้างอิง –    http://pasusat.com/%E 0% B 8%9 B%E 0% B 8% A 5% E 0% B 8% B 2% E 0% B 8%84% E 0% B 8% A 3% E 0% B 8% B 2% E 0% B 8%9 F/

การเลี้ยงปลาคราฟ/ปลาคาร์ฟ

รูปภาพ
   การเลี้ยงปลาคราฟที่พบเห็นนิยมมากในปัจจุบัน แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. การเลี้ยงในตู้ปลา การเลี้ยงปลาคราฟในตู้ปลามักไม่นิยมนัก เพราะปลาคราฟเป็นปลาสวยงามขนาดใหญ่ และชอบว่ายน้ำคุ้ยเขี่ยหาอาหารเก่ง แต่หากเลี้ยง ควรเลี้ยงไม่เกิน 2 ตัว และเพิ่มจำนวนตามขนาดของตู้ปลา ส่วนน้ำที่ใช้เลี้ยง อาจเป็นน้ำประปาหรือน้ำฝนก็ได้ แต่หากเป็นน้ำฝนในชุมชนเมืองควรหลีกเลี่ยง เพราะน้ำฝนมักเป็นกรดมากสำหรับตู้ปลาควรมีเครื่องเติมอากาศตลอดเวลา รวมถึงเครื่องกรองน้ำด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ตู้ปลาอาจตกแต่งด้วยกรวดหิน และสาหร่ายขนาดเล็ก แต่ไม่ควรเป็นสาหร่ายขนาดใหญ่ เพราะมักเสียหายจาการว่ายหรือการกัดกินของปลาคราฟได้ง่าย 2. การเลี้ยงในบ่อจัดสวน การเลี้ยงในบ่อจัดสวน หรือ บ่อดาดคอนกรีต ถือเป็นรูปแบบการเลี้ยงปลาคราฟที่นิยมมาก เพราะสามารถปล่อยปลาคราฟได้จำนวนมาก ปลาคราฟมีพื้นที่ว่ายน้ำได้กว้าง ไม่ต้องใช้เครื่องเติมอากาศ และสามารถรองรับขนาดปลาคราฟที่เติบโตจนมีขนาดใหญ่ในอนาคตได้บ่อเลี้ยงปลาคราฟอาจเป็นขอบดิ่งหรือขอบลาดเอียง ขนาดบ่อควรลึกในช่วง 40-70 เซนติเมตร เพราะตื้นมากจะทำให้น้ำร้อนจากแดดส่อง หากลึกมากจะทำให้มอง

การให้อาหาร

รูปภาพ
        อาหารปลาคราฟรุ่นที่เลี้ยงตามบ่อหรือตู้ปลา ปัจจุบัน นิยมใช้อาหารสำเร็จรูปประเภทลอยน้ำ ซึ่งใช้ได้ทั้งอาหารปลากินเนื้อ และปลากินพืช แต่ทั้งนี้ ควรเป็นอาหารสำหรับปลาคราฟโดยเฉพาะยิ่งดี เพราะปลาคราฟเป็นปลาที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มปลากินพืชหรือกินเนื้อ ดังนั้น จึงควรเป็นอาหารผสมระหว่างอาหารปลากินพืชกับอาหารปลากินเนื้อ นอกจากนั้น อาจให้อาหารอื่นเสริม ได้แก่ รำข้าว ขนมปัง เศษผัก ปลวกหรือแมลงต่างๆ สำหรับความถี่การให้อาหาร ควรให้ 1-2 ครั้ง/วัน ในช่วงเช้าหรือเย็น อ้างอิง - – http://pasusat.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F/

1.โคฮากุ (Kohoku)

รูปภาพ
           โคฮากุ ( Kohaku) มีประโยคอมตะของวงการปลาคาร์พกล่าวไว้ว่า “ Keeping Nishikigoi begin with kohahu and end with kohaku” ประโยคดังกล่าวสามารถยืนยัน ความงามอันเป็นอมตะของปลาสายพันธุ์นี้ได้ดีที่สุด จึงไม่แปลกที่ปลาสายพันธุ์นี้จะมีชื่อเรียกเฉพาะลักษณะของลวดลายบนตัวปลา ( Patterns) ตลอดจนมีหลักเกณฑ์ในการตัดสิน ความสวยงามของปลาแต่ละตัวมากที่สุด นอกไปจากนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวยังสามารถใช้ขยายผลไปเป็นพื้นฐานในการพิจารณาความสวยงามของปลาสายพันธุ์อื่นได้อีกด้วย อ้างอิง - http://www.thaikoicenter.com/article/ 44- koi-topics/ 75-- kohaku.html

2. ไทโช ซันเก้ (Taisho Sanke)

รูปภาพ
   ไทโชซันโชกุ ( Taisho Sanshoku / Taisho Sanke) เป็นชื่อเต็มของปลาสายพันธุ์ที่นักเลี้ยงเมืองไทยนิยมเรียกันติดปากว่า "ซันเก้ ( Sanke)" ทั้งหมด แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า สามสี ส่วนคำว่าไทโช ( Taisho) ซึ่งปลาสายพันธ์นี้ได้เริ่มแพร่หลายในยุคสมัยไทโช ดังนั้นชื่อของปลาสายพันธุ์นี้จึงแปลได้ความหมายว่าปลาสามสีแห่งยุคไทโช อ้างอิง - http://www.thaikoicenter.com/article/44-koi-topics/89--taisho-sanshoku-sanke.html

3. โชวา ซันโชกุ (Showa Sanshoku)

รูปภาพ
      โชวา ซันโชกุ / ซันเก้ ( Showa Sanshoku / Showa Sanke) ปลาคาร์พสายพันธุ์ที่สาม เป็นสายพันธ์สุดท้ายที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Gosanke ซึ่งในกลุ่มนี้จะประกอบด้วยปลาคาร์พสายพันธุ์ โคฮากุ ( Kohaku), ซันเก้ ( Sanke) และ โชวา ซันโชกุ ( Showa Sanshoku) ความหมายของ "ซันโชกุ" และ "ซันเก้" นั้นเป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้ว ตั้งแต่ในหัวข้อของ ไทโช ซันเก้ ส่วนชื่อ "โชวา" ก็เป็นชื่อยุคสมัยการปกครอง ซึ่งปลาสายพันธ์นี้ได้ถูกผสมพันธ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1927 ( เพิ่งสิ้นยุคของไทโช เริ่มต้นยุคโชวา) ดังนั้นความหมายของชื่อปลาสายพันธ์นี้ก็คือปลา 3 สีแห่งยุคโชวา สำหรับนักเลี้ยงบ้านเรานิยมเรียกว่า โชวา ( Showa) นักเลี้ยงปลามือใหม่บางท่านอาจสับสนในการจำแนกแยกแยะระหว่าง ซันเก้ กับ โชวา ปลาสองสายพันธ์นี้มีอะไรที่แตกต่างกันพอสมควร หากจับหลักได้ก็จะแยกแยะได้ไม่ยาก คือซันเก้ ( Sanke) จะมีครีบหน้าสีขาวล้วน หรือสีดำในลักษณะเป็นเส้นๆ แต่ปลา โชวา จะต้องมีสีดำที่โคนครีบที่เรียกว่า“ Motoguro” เป็นสีดำพื้นใหญ่คลุมโคนครีบหน้า บางครั้งปลา โชวา ตอนเล็กจะมีครีบหนาดำทั้งพื้นแต่ปลา โชวา ส่วนใหญ่พื้

4. เบคโกะ (Bekko)

รูปภาพ
ปลาชิโร - เบคโกะ จะมีสีดำและสีขาวเป็นสีประจำตัว สีดำ หมายถึง : พลังอำนาจลึกลับหรืออาถรรพ์ต่าง ๆ สีขาว หมายถึง : สิ่งที่ดีมีมงคล เมื่อสีดำและสีขาวอยู่รวมกัน ก็เป็นเครื่องหมายของหยินและหยาง ที่เชื่อกันว่าจะช่วยขจัดอาถรรพณ์และวิญญาณร้าย ไม่ให้เข้ามาทำอันตรายใด ๆ แก่ผู้เลี้ยงปลาชนิดนี้ อ้างอิง - https://th-th.facebook.com/SiamPlaCarp/posts/405112546294777

5. อาซากิ ชูซุย (Asagi Shusui)

รูปภาพ
   ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Asaki เป็นปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง ถูกนำมาใช้เป็นสายพันธุ์พื้นฐานในการพัฒนาปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ใหม่ๆอีกมากมายบนแผ่นหลังของปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Asaki ถูกปกคลุมด้วยลวดลายของเกล็ดที่มีลักษณะเหมือนตาข่ายสีคราม , สีน้ำเงินเข้ม หรือสีฟ้าอ่อนหัวของปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Asaki จะมีสีฟ้าอ่อนๆ และต้องสะอาด ไม่มีตำหนิเปรอะเปื้อนฐานหรือโคนของ ครีบอก ครีบหาง บริเวณท้อง และฝาประกบเหงือก ของปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Asaki มักจะมีสีส้มเข้มถึงแดง อ้างอิง - http://www.koi108.com/main_get.php?method=read_news&output=html&news_id=38

6. โกโรโมะ (Koromo)

รูปภาพ
    Koromo ถ้าแปลกันตามตัวอักษร จะแปลว่า เสื้อคลุม หรือ สวมเสื้อคลุม Koromo ถูกพัฒนามาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์โคฮากุ ( Kohaku) และปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์อาซากิ ( Asaki) ความแตกต่างระหว่างปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์โกโรโมะ ( Koromo) และ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Goshiki ( โงชิกิ , โกชิกิ , โกชกิ) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Koromo มีพื้นผิวสีขาวบริสุทธิ์ โดยมีตาข่ายคล้ายปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Asaki ( อาซากิ) ปกคลุุมเฉพาะบริเวณส่วนที่เป็นลวดลายสีแดง Ai Koromo ( ไอ โกโรโมะ , ไอ โคโรโมะ) เป็นชื่อที่ถูกใช้เรียก ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Koromo ที่มีตาข่ายสีฟ้าปกคลุมในบริเวณเกล็ดของลวดลายสีแดงเราจะเรียก ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ Koromo ซึ่งเป็นสีม่วง ว่า Budo Koromo ( บูโด โกโรโมะ , บูโด โคโรโมะ) อ้างอิง - http://www.koi108.com/main_get.php?method=read_news&output=html&news_id=32

7. โอกอน (Ogon)

รูปภาพ
    อันที่จริงแล้วโอกอนเป็นชื่อเรียกปลากลุ่ม Hikari-mujimono ซึ่งเป็นกลุ่มปลาสีเดียวที่มีผิวมันวาวใกล้เคียงกับปลากลุ่ม Hikari-moyomono ซึ่งเเป็นกลุ่มปลาที่มีมากกว่า 1 สีและมีผิวมันวาว โอกอน มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ยามาบูกิ โอกอน แปลว่ากุหลาบเหลือง อ้างอิง - http://koi-mio.blogspot.com/2010/02/blog-post_28.html

8.อุจึริโมโนะ (Utsurimono)

รูปภาพ
        คำว่าอุจึริโมโนะ ( Utsurimono) มาจากภาษาญี่ปุ่น คำว่า Utsuri แปลความหมายตรงตัวได้ว่า "เคลื่อน" ซึ่งอาจหมายถึงสีดำที่เคลื่อนผ่านเส้นข้างตัวของปลาลงมาถึงช่วงท้องปลา ส่วนคำว่า Mono นั้น แปลว่า "ชนิด" ดังนั้น คำว่า อุจึริโมโนะ จึงหมายถึง ปลาที่มีลักษณะลวดลายของสีดำพาดลงมาเป็นแถบถึงช่วงท้องของปลา จุดเด่นของปลาสายนี้อยู่ ที่สีดำ ซึ่งมีลักษณะเป็นแถบยาวพาดตัวเลยเส้นประสาทข้างตัวของปลา ( Lateral Line) ลงมาถึงช่วงท้องของปลา และลวดลายของสีดำที่พาดผ่านส่วนหัวของปลา ในลักษณะรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งมี 3 รูปแบบมาตรฐาน ปลาในกลุ่มอุจึริสามารถมีชื่อเรียกแยกออกไปตามสีพื้นบนตัวปลา Shiro Utsuri    คือ ปลาที่มีลวดลายสีดำดังกล่าวบน พื้นสีขาว (คำว่า Shiro แปลว่า สีขาว)  ซึ่งปลาสายพันธุ์นี้ในเมืองไทยมักเรียก    กันสั้นๆ ว่า Shiro Hi Utsuri คือ ปลาที่มีลวดลายสีดำดังกล่าวบนพื้นสีแดงอมส้ม จริงๆ แล้วคำว่า Hi หมายถึงสีแดงดังนั้น หากปลา มีเฉดสีพื้นเป็นสีส้มสดและใกล้เคียงกับสีแดงสดมาก เท่าไหร่ก็ถือว่ายิ่งมีสีพื้นที่ดี Ki Utsuri คือ ปลาอุจึริที่มีลวดลายดำบนพื้นสีเหลือง หาดู

9. ตันโจ (Tancho)

รูปภาพ
      ถ้าตั้งคำถามแบบขำ ๆ ว่า "ปลาคาร์พชนิดใดแสดงความเป็นชาตินิยมในสายเลือดญี่ปุ่นมากที่สุด" คำตอบแบบขำ ๆ แน่นอนวาจะต้องเป็นปลาคารพชนิดที่มีชื่อว่า " Tancho" เพราะในบรรดาปลาคาร์พชนิดหลัก มีเพียง " Tancho" ที่มีเอกลักษณ์พิเศษแสดงความรักชาติมากกว่าใครเพื่อน เพราะบริเวณส่วนหัวของปลาจะมีจุดวงกลมสีแดง เหมือนใครจงใจเอาสีแดงมาแต้มไว้ ซึ่งจุดสีแดงบนหัวนี้ ถ้าเกิดกับปลา Tancho หรือ Tancho Kohaku จะคล้ายกับสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์บนธงชาติญี่ปุ่นมาก จึงมีคำกล่าวแบบสนุก ๆ ว่า ปลาคาร์พ Tancho เป็นปลารักชาติ ความหมายที่มาของคำว่า ตันใจนั้น ตั้งตามชื่อนักรกเรียนญี่ปุ่นที่มีหงอนสีแดงวงกลมอยู่บนหัว นอกจากจะเป็น 1 ใน 13 ชนิดหลักแล้ว ตันโจ ยังหมายรวมไปถึงผู้ยิ่งใหญ่ที่มีวงกลมสีแดงบนส่วนหัวอีกด้วย ซึ่งก็คือ ตันโจ-โคฮากุ ( Tancho Kohaku) การจะดูว่าปลาคาร์พตันโจมีคุณภาพดีหรือไม่นั้น ให้สังเกตจากสีแดงบนส่วนหัวทั้งนี้ ปลาตันโจที่ดีควรจะมีสีแดงกลมได้สัดส่วน และมีขนาดใหญ่ แม้ว่ารูปทรงนั้นจะไม่ได้เป็นวงกลม แต่ป็นรูปไข่ ก็จะได้รับการยอมรับ หากมีรูปทรงที่ดี ส่วนรูปทรงอื่น ๆ